8 เคล็ดลับในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์วินเทจ: เพิ่มความโดดเด่นและความแปลกใหม่ให้กับพื้นที่ของคุณ​

การซื้อเฟอร์นิเจอร์วินเทจเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดเพื่อให้ได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพดีในราคาที่ต่ำลง ที่คุณสมารถเพิ่มความแปลกใหม่และความเจ๋งให้กับบ้านของคุณ แม้ว่าสิ่งของเก่าเหล่านั้นจะถูกผลิตขึ้นมาเยอะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันก็จะกลายเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ นอกจากนี้คุณยังจะได้ "ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" ด้วย - การนำเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์วินเทจมาไว้ในบ้านของคุณเป็นเรื่องที่เป็นมิตรกับโลก แต่คุณจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นชิ้นส่วนที่ดีและคุ้มค่ากับราคาของมัน? นี่คือ 8 เคล็ดลับสำหรับการซื้อเฟอร์นิเจอร์วินเทจ

‍1. หาแหล่งจำหน่ายที่ดีและเข้าไปดูบ่อยๆ
‍สำรวจร้านเฟอร์นิเจอร์วินเทจต่างๆในพื้นที่ของคุณ เมื่อคุณพบแหล่งที่ดีแล้ว มันจะช่วยให้คุณต้องไปที่นั่นบ่อยๆ ทำความรู้จักกับพนักงานขายหรือร้านค้า พวกเขาสามารถให้ข้อมูลมากมายหรือแจ้งให้คุณทราบเมื่อสิ่งที่คุณต้องการเข้ามาที่ร้าน

‍2. หาเฟอร์นิเจอร์ที่มีโครงสร้างที่ดี
‍มองหาเฟอร์นิเจอร์ที่มีโครงสร้างที่ดี ยกตัวอย่างเช่น ลิ้นชักควรเลื่อนออกมาได้ง่ายและชิ้นส่วนหุ้มเบาะควรมีกรอบที่แข็งแรงทนทาน ร้านค้าปลีกวินเทจมักจะมีการแต่งเติมชิ้นที่มีคุณภาพ แต่คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับสิ่งนี้ หากคุณกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์พลาสติก มันก็ไม่ควรจะเป็นพลาสติกที่ใกล้แตก

‍3. ค้นหาแบรนด์ที่ไม่รู้จัก
‍ในขณะที่การหาชื่อแบรนด์ที่คุ้นเคยนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็อย่าไปจำกัดเฉพาะแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น ผู้ผลิตอื่นๆ ในยุคเดียวกันนั้นอาจมีราคาที่น้อยกว่าแต่ก็มีคุณภาพดีได้เช่นกัน

‍4. มองหาคุณภาพ
‍เพียงเพราะมันเป็นเฟอร์นิเจอร์เก่าก็ไม่ได้หมายความว่าคุณภาพนั้นจะดีมาก พยายามหลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุที่ด้อยและมีงานฝีมือที่ไม่ดี ทุกยุคทุกสมัยนั้นก็มีรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ทำดีและทำมาไม่ดี เฟอร์นิเจอร์วินเทจก็ไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งเป็นความคิดที่ดีในการค้นหาแบรนด์ของยุคที่คุณต้องการก่อนที่คุณจะเริ่มช็อปปิ้งหรือเสนอราคาในการประมูล

‍5. อย่าตกใจกับรอยขีดข่วนเล็กน้อย
‍ในขณะที่สิ่งสำคัญคือต้องมองหาเฟอร์นิเจอร์ที่มีการใช้งานมาอย่างนุ่มนวล ซึ่งรอยขีดข่วนบนพื้นผิวนั้นสามารถแก้ไขได้ อย่าปล่อยให้รอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้คุณล้มเลิกความชอบ ผลิตภัณฑ์จำนวนมากในท้องตลาดสามารถแก้ไขข้อบกพร่องเล็กน้อยได้ ซึ่งถ้าชิ้นส่วนที่โดดเด่นนั้นมีรอยกวนใจคุณก็สามารถนำไปแก้ไขได้ใหม่อย่างมืออาชีพ

‍6. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถเข้ากันได้
‍คุณไม่ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์วินเทจของคุณเพื่อเอาไปเก็บไว้ที่ไหนสักแห่ง ดังนั้นพิจารณาขนาด โดยเฉพาะถ้าคุณซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้านของคุณเอง เฟอร์นิเจอร์มักจะดูใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไปเมื่อดูภายในในร้าน นำขนาดการวัดพื้นที่ไปด้วยเพื่อที่จะสามารถซื้อสิ่งที่มีขนาดสมเหมาะกับบ้านของคุณ

‍7. ปรับแต่งให้เข้ากับสไตล์ใหม่
‍ดูว่าคุณสามารถเปลี่ยนสไตล์ให้กับเฟอร์นิเจอร์ได้หรือไม่ ตัวอย่างเช่นใช้โต๊ะเล็ก ๆ สำหรับไนท์แสตนด์หรือตู้เก่าๆ สำหรับเป็นโต๊ะกาแฟ เฟอร์นิเจอร์ที่แปลกๆในสถานที่ที่ไม่คาดคิดจะช่วยให้พื้นที่ของคุณมีสไตล์ที่แตกต่างออกไป

‍8. มองหาชิ้นส่วนต่างๆ ที่สามารถไปด้วยกันได้
‍ซื้อชุดเฟอร์นิเจอร์วินเทจทั้งชุดอาจมีราคาแพงหรือทำให้พื้นที่ของคุณเต็มไปด้วยความวินเทจที่มากเกินไป หากงบประมาณของคุณมีจำนวนจำกัด ลองเลือกซื้อแต่ละชิ้นที่สามารถเข้ากันได้ดีทีละชิ้น ซึ่งจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแสดงสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณเอง

​ที่มา : https://www.thespruce.com/how-to-buy-vintage-furniture-1391351